วันอังคารที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

หน้าใสไร้สิว

หลายปีก่อนตอนที่ฉันย่างเข้าวัยรุ่น ฮอร์โมนกำลังพุ่งพล่านหน้าก็เลยมีสิวเต็ม ตอนนั้นฉันไปรับพี่ของฉันที่สนามบินด้วยหน้าสิวๆอย่างนั้น เขากลับมาจากไปเรียนป.โทที่ฝรั่งเศส เอาเกียรตินิยมกลัมมาฝากแม่ด้วย เขาจากไปนาน ฉันคิดถึงพี่มาก แต่เมื่อเราพบกัน ประโยคแรกที่พี่พูดกับฉันคือ "หน้าน้องมีสิว เดี๋ยวพี่จะสอนวิธีการดูแลหน้าให้" ทำเอาฉันอึ้งไปเลย
พี่สอนวิธีการดูแลหน้าให้ฉันเริ่มจากการล้างหน้า ต้องเลือกเจลเพราะไม่มันและไม่มีกากสบู่ตกค้าง ในขณะที่โฟมมีีความมันทำให้เกิดสิวได้ง่าย และสบู่ก็มีกากสบู่ทำเกิดสิวได้เช่นกัน หลังจากล้างหน้าต้องกระชับรูขุมขนด้วยโทนเนอร์ จากนั้นพี่สอนฉันลอกหน้า ฉันยังุจำบรรยากาศนั้นได้ที่ฉันรู้สึกแปลกๆตอนที่พี่ใช่ครีมของฝรั่งเศสที่พอกหน้าให้ มันใช้เวลาเพียง 5 นาทีก็ไปล้างออกได้เลย ไม่ต้องทิ้งข้ามคืน ไม่ต้องรอให้ครีมแพ็คตัวเป็นหน้ากากแล้วค่อยลอกออก พี่สอนฉันว่าต้องลอกหน้าอาทิตย์ละครั้ง เพื่อลอกสิ่งสกปรกที่อาจตกค้างอยู่ที่รูขุมขนออกไปให้หมด สิ่งสกปรกเหล่านี้หากตกค้างในรูขุมขนมันจะแปลงรา่่งเป็นสิว! ยี้ !!
พี่บอกว่าให้ระวังอย่าเอามือจับหน้าเพราะมือเรามันจับมาสารพัด เอาเชื้อโรคมาไว้บนผิวหน้่าทำไม เดี๋ยวเป็นสิวนะ อีกอย่งที่พี่ห้ามคือ "ห้ามบีบสิวเสี้ยน" พี่วาดรูปภูเขาไฟ ที่มีลาวาอยู่ข้างใน และอธิบายวา่สิวก็เหมือนภูเขาไฟที่มีลาวา เมื่อเราบีบสิว ลาวา(สิว) ก็จะพุ่งออกไป ทิ้งไว้แต่ปล่อง(ผิวที่มีรูโบ๋) ดูน่าเกลียดมาก รักษาอย่างไรก็ไม่หาย ติดตัวอย่างนั้นไปจนแก่เลย อยากบีบ หมั่นเี้ขี้ยวอย่างไรก็อดทนไว้ ท่องไว้ "เดี๋ยวผิวหน้าเป็นปล่องภูเขาไฟ"
เรื่องอาหารการกินก็ต้องดูแล ไม่กินมัน ไม่กินหวาน มันทำให้เป็นสิวได้ง่าย
ทุกวันนี้ฉันยังจำสิ่งที่พี่สอนฉันได้แม่นยำเพราะว่าต้องทบทวนสิ่งนี่เสมอในเวลาที่ตอบคำถามที่ถามว่าทำอย่างไรหน้าจึงใสเนียนไม่มีสิวเลย ฉันรู้สึกขอบคุณพี่ที่สอนฉันมาอย่างดี ขอบคุณมากค่ะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น