วันศุกร์ที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2553
อาหาร 10 อย่างที่ไม่ควรกินมากเกิน
อาหารที่ไม่ควรกินมากเกิน หรือบ่อยเกินได้แก่... 1. ไข่เยี่ยวม้า :ไข่ เยี่ยวม้ามีตะกั่วค่อนข้างสูง ตะกั่วทำให้การดูดซึมแคลเซียมน้อยลงกินบ่อยๆ จะเสี่ยงโรคกระดูกโปร่งบาง และอาจได้รับพิษตะกั่วเช่น สมองเสื่อม เป็นหมัน ฯลฯ
2. ปาท่องโก๋ :กระบวนการทำปาท่องโก๋ มีการใช้สารส้ม ซึ่งมีตะกั่วปน เปื้อน ตะกั่วทำให้ไตทำงานหนักในการขับสารนี้ออกไป นอกจากนั้นยังทำให้คอแห้ง เจ็บคอง่าย โดยเฉพาะคนที่เป็นโรคร้อนในได้ง่าย
3. เนื้อย่าง :กระบวนการรมไฟ ย่างไฟทำให้เกิดสาร! เบนโซไพรีน ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็ง
4. ผักดอง :ผัก ดอง และของหมักเกลือทำให้ร่างกายได้รับเกลือโซเดียมสูง ถ้ากินบ่อยเกิน หรือมากเกินจะทำให้หัวใจทำงานหนัก เกิดความดันเลือดสูงและโรคหัวใจได้ง่าย นอกจากนั้นกระบวนการหมักดองยังทำให้เกิดสารแอมโมเนียมไนไตรด์ ซึ่งเป็นสาร ก่อมะเร็ง
5. ตับหมู :ตับ หมูมีโคเลสเตอรอลสูง การกินตับหมูบ่อยเกิน หรือมากเกินทำให้เสี่ยงต่อโรคหัวใจ เส้นเลือดสมอง (อัมพฤกษ์-อัมพาต) และโรคมะเร็งเพิ่มขึ้น
6. ผักขม ปวยเล้ง : ผักขมและปวยเล้งมีสารอาหารสูง ทว่า... มีกรดออกซาเลตมาก ทำให้เกิดการขับสังกะสีและแคลเซียมออกจากร่างกายมาก การกินบ่อยเกิน หรือมากเกินอาจทำให้เกิดภาวะขาดแคลเซียม หรือสังกะสีได้
7. บะหมี่สำเร็จรูป : บะหมี่สำเร็จรูปมีสารกัดบูด สารแต่งรสค่อนข้างสูง และมีคุณค่าทางอาหารต่ำ การกินบะหมี่สำเร็จรูปมากเกิน หรือบ่อยเกินอาจทำให้เสี่ยงต่อโรคขาดอาหารและการสะสมสารพิษได้
ที่มา.
.http://www.matichon.co.th/prachachat/news_detail.php?newsid=1245902270&grpid=07&catid=00
เคล็ดลับ ๑๒ ข้อ จากแพทย์จีน - อาหารที่ไม่ควรกิน(บ่อย)
1.หวีผมบ่อยๆ :หวีผมเบาๆ บ่อยหน่อยช่วยให้ตาสว่าง และรากผมแข็งแรง (ใช้หวีซี่ห่างหน่อย แปรงเบาหน่อย เพื่อกันผมหลุด)
2.ถูใบหน้าบ่อยๆ :ล้างมือด้วยสบู่ หรือเจลแอลกอฮอล์ให้สะอาดก่อน หลังจากนั้นใช้ฝ่ามือ 2 ข้างถู หน้าเบาๆ บ่อยหน่อยเพื่อกระตุ้นให้เลือดไหลเวียนดีขึ้น ใบหน้าเปล่งปลั่ง
3.เคลื่อนไหวดวงตาบ่อยๆ :ให้ มองไกล-มองใกล้ มองข้างนอก-ข้างใน มองบน-มองล่าง หลีกเลี่ยงการมอง หรือจ้อง อะไรนานๆ โดยเฉพาะคนที่ทำงานคอมพิวเตอร์ควรพักสายตาด้วยการมองไกลอย่างน้อยทุกชั่วโมง
4.กระตุ้นใบหูบ่อยๆ :การ ดึงหู ดีดหู บีบหู ถูใบหูเบาๆ บ่อยหน่อย ช่วยบำรุงตานเถียน(จุดฝังเข็ม) ซึ่งเป็นตำแหน่งที่เก็บพลังงานของร่างกาย (ใต้สะดือ) สัมพันธ์กับไต ซึ่งเปิดทวารที่หู ทำให้แรงดี ป้องกันเสียงดังในหู หูตึง และอาการเวียนหัว
5.ขบฟันบ่อยๆ : ขบฟันเบาๆ บ่อยหน่อย(ไม่ใช่ขบแรงดังกรอดๆ) ช่วยให้ฟันแข็งแรง และกระตุ้นการหลั่งน้ำย่อย
6.ใช้ลิ้นดุนเพดานปากบ่อยๆ : การใช้ปลายลิ้น กระตุ้นเพดานบนด้านหน้าเป็นการกระตุ้นจุดฝังเข็ม เพื่อเชื่อมพลัง! ลมปราณตู๋และเยิ่น ซึ่งเป็นเส้นควบคุมแนวกลางลำตัวส่วนหลัง และส่วนหน้าร่างกาย ทำให้เกิดการกระตุ้นการหลั่งสารน้ำ และน้ำลาย
7.กลืนน้ำลายบ่อยๆ : การกลืนน้ำลายบ่อยๆ ช่วยกระตุ้นพลังบริเวณคอหอย และกระตุ้นการย่อยอาหาร
8.หมั่นขับของเสีย : หมั่นขับของเสีย โดยเฉพาะดื่มน้ำให้พอ กินอาหารที่มีเส้นใย ออกกำลัง เพื่อ ป้องกันท้องผูก เมื่อปวดปัสสาวะหรืออุจจาระให้ถ่ายทันที อย่ารอโดยไม่จำเป็น การทิ้งของเสียไว้ในร่างกายนานเกินทำให้เกิดสารพิษ และการดูดซึมสารพิษ(กลับเข้าสู่ร่างกาย) มากขึ้น ทำให้ป่วยง่าย
9.ถูหรือนวดท้องบ่อยๆ: ให้นวดท้องตามเข็มนาฬิกาเบาๆ เพื่อช่วยให้การขับถ่ายของเสียดีขึ้น
10.ขมิบก้นบ่อยๆ: การขมิบก้นบ่อยๆ ช่วยป้องกันริดสีดวงทวาร และท้องผูก
11.เคลื่อนไหวทุกข้อ: การอยู่นิ่งๆ หรืออยู่ในท่าใดท่าหนึ่งนานเกินไป ทำให้เกิดโรคได้ง่าย ควรเคลื่อน ไหวข้อต่างๆ ให้ครบทุกข้อทุกวัน ฝึกฝนการใช้กล้ามเนื้อและข้อให้สมดุล เช่น การฝึกชี่กง ไท ้เก้ก โยคะ ฯลฯ
12.ถูผิวหนังบ่อยๆ: ใช้ฝ่ามือถูตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย คล้ายกับการถูตัวเวลาอาบน้ำ มีส่วนช่วยให้ เลือดและพลังไหลเวียนดี เรียนเชิญท่านผู้อ่านลองนำไปปฏิบัติดู เพื่อสุขภาพ พลัง และลมปราณที่ดีไป นานๆ
วันจันทร์ที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552
มาทำเอวคอดกิ่วกัน
ท่าที่สอง ท่าเตรียมเหมือนท่าแรก แต่เปลี่ยนการเคลื่อนไหว ท่านี้ให้โยกตัวซ้ายขวา 200 ครั้ง
ท่าที่สาม ท่าเตรียมเหมือนเดิม โน้มตัวไปข้างหน้าจนหน้าอกอยู่ระดับเดียวกับเข่า ทำ 200 ครั้ง
ทำอย่างนี้ทุกวัน จะเริ่มเห็นเอวค่อยๆคอดลง เพียงอาทิตย์แรกก็จะเริ่มเห็นผลแล้ว ทำต่อไปเรื่อยๆ แล้วจะได้เป็นเจ้าของเอวคอดกิ่วกันนะค่ะ
อย่าลืม สัดส่วนที่ชวนมองในสายตาของผู้้ชายคือ สัดส่วนเอว :สะโพก คือ 60 :100 ค่ะ เช่น สะโพก 40 นิ้ว เอว ในสัดส่วนที่สวยงามจะอยู่ที่ 26นิ้วค่ะ
วันอาทิตย์ที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552
เสน่ห์กาย 9 ประการที่ผู้ชายต้องเหลียวหลัง
1.หน้าผากเป็นโหนกนูนขึ้นมา
2.ตาโตคม
3.ปากอวบอิ่มหน้าจูบ
4.คอยาวเรียว
5.หน้าอกกลมกลึง
6.เอวคอด ความยาวรอบเอวเป็น60%ของความยาวรอบสะโพก
7.สะโพกผาย
8.ก้นงอน
9.ขาเรียวยาว ขาต้องยาวเป็น 60%ของความสูงทั้งหมดของเรา
แต่เท่าที่รู้ต่อให้เป็นยอดนางแบบก็มีไม่ครบ 9ข้อนี้หรอก
ตั้งแต่ข้อ1-9 หากมีไม่ครบก็ "ซ่อม"ได้
ข้อ1.2.3. แก้โดยเทคนิคการแต่งหน้า
ข้อ4.9.แก้โดยการแต่งตัว
ข้อ5.6.7.8.แก้โดยการบริหารร่ายกาย
"ไก่งานเพราะขน คนงามเพราะแต่ง"
แล้วจะกลับลงรายเอียดละเอียดในแต่ละข้ออีกครั้งนะจ๊ะ
วันพฤหัสบดีที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552
คำสอนในวันแต่งงาน
นั้นจะเป็นวิธีการเพิ่มพูนความรัก ยิ่งอยู่ก็ยิ่งรัก ภาษารักนั้นมี 5 ภาษาด้วยกัน มีการทำบางสิ่งบางอย่างให้ ,การให้ของขวัญ,การใช้เวลาที่มีคุณค่า,การสัมผัส,การพูดถ้อยคำที่ชูจิตใจ เราต้องค้นหาว่าคู้่ของเราเขามีภาษารักแบบไหน แล้วตอบสนองให้ตรงกับภาษารัก เพื่อการแสดงความรักของเราจะไม่สูญเปล่า เขาสามารถสัมผัสได้ว่าเรารักเขา บางครั้งฝ่ายหนึ่งพยายามแสดงความรักมากมาย แต่อีกฝ่ายไม่เคยสัมผัสได้เลยว่าถูกรัก ฝ่ายที่แสดงความรักก็ท้อใจ บ่นว่าอีกฝ่ายเย็นชา ในขณะเดียวอีกฝ่ายก็เหงาเปล่าเปลี่ยวหัวใจเพราะไม่รู้้สึกถูกคู่ของตนรัก
นอกจากเราจะรู้ว่าภาษารักมีด้วยกัน 5 ภาษาแล้ว เรายังต้องรู้ว่าคู่ชีวิตของเราเขามีพูด(ให้)ภาษารักแบบใดใน5แบบ และเขาฟัง(รับ)ภาษารักแบบใดใน5แบบ
เช่น สามีพูด(ให้)ภาษารักแบบการสัมผัส ในขณะที่ภรรยาฟัง(รับ)ภาษารักแบบการทำบางสิ่งบางอย่างให้
เมื่อสามีแสดงออกความรักด้วยการหอมแก้มภรรยา ภรรยาจึงไม่รู้สึกว่าสามีรักตน
แต่เมื่อสามีช่วยล้างจาน ภรรยาถึงจะรู้สึกว่าสามีรัก
การจะรู้ได้ว่าคนคนหนึ่งพูดภาษารักเป็นแบบใดก็ดูได้จากการแสดงออกความรักของเขาต่อคนอื่น เช่นบางคนเมื่อเขายื่นมือเข้าไปช่วยทำสิ่งเล็กๆน้อยๆให้คนอื้นแล้วรู้สึกรักคนอื่นมากขึ้น นี่ก็แปลว่าเขาพูดภาษารักแบบการทำบางสิ่งบางอย่างให้ เดียวกันการจะรู้ว่าเราฟัง(รับ)ภาษารักแบบใดก็สังเกตจากการที่เรารู้สึกว่าถูกรักเมื่อมีคนมาแสดงความรักในแบบที่ตรงกับภาษารัก(ฟัง)ของเรา หากเรามีภาษารักแบบการพูดที่ให้กำลังใจ เมื่อมีคนมาพูดดีๆหรือพูดให้กำลังใจเราจะรู้สึกว่ามีคนมารักเรา
ฉันคิดว่าการรู้ภาษารักของคู่ชีวิตของเราจะช่วยเติมรักให้คู่ชีวิต ทำให้คู่ของเรานั้นยิ่งอยู่ด้วยกัน ก็ยิ่งรักกันมากขึ้น
วันจันทร์ที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552
"อภัยเสมอ "เคล็ดลับความความสดใหม่ของชีวิตคู่ตลอดกาล
เราเคยมีความคิดโง่ๆว่า ถ้าเราอภัยให้เขาก็เท่ากับเราขาดทุน แพ้ เสียเปรียบ เราต้องเอาคืน ต้องคิดบัญชี แก้แค้นให้สาสมกับความเจ็บปวดที่เราเคยได้ีรับ โดยหารู้ไม่ระหว่างที่เรามีความคิดอย่างนี้นั้น มันได้บั่นทอนความสุขของครอบครัวไปตั้งมากมาย เราเสียเวลากับการแก้แค้นมามาก และไม่มีอะไรดีขึ้น ใจที่ยังเจ็บก็เจ็บอยู่อย่างนั้น ดูเหมือนว่าการแก้แค้นจะไม่เคยบรรเทาความเจ็บปวดในใจของเราได้เลย
พอเราได้เข้าใจเรื่องการให้อภัยที่กางเขนที่พระเยซูมาตายไถ่บาปของเรา การให้อภัยก็คือ ไม่เอาเรื่อง ไม่ถือโทษ และเชื่อว่าเขาจะกลับตัวกลับใจไม่ทำอย่างนั้นอีก
เมื่อเราซาบซึ้งกับสิ่งที่พระเยซูทำเพื่อเรา เราเองก็เคยทำผิดพลาดมาก่อน แต่พระเยซูก็อภัย ไม่ถือโทษ และให้โอกาสเราแก้ตัว แม้ว่าเราอาจจะทำพลาดอีก แต่ก็รักและอดทนนานกับเรา และเชื่อว่าเราจะเป็นคนดีได้เสมอมา
เราจึงตัดสินใจอภัยให้เขา ทำอย่างที่พระเยซูทำให้เรา แล้วความสุขเกินคำบรรยายก็ได้หลั่งเข้ามาในใจ เราได้รับการปลดปล่อย จิตใจของเรามีเสรีภาพ ไม่ต้องพันธนาการไปด้วยรู้สึกเคียดแค้นอีกต่อไป
เราจึงมีความสุขมากกับการใช้ชีวิตคู่กับเขา เป็นความสุขทีี่มาจากการตัดสินใจอภัยของเราเอง แม้ว่าเขาอาจเคยพลาดผิดและเราก็เจ็บชำ้ใจแต่เราก็เชื่อในส่วนดีของเขาเสมอ
เชื่อว่าเขาจะเป็นคนดี เชื่อว่าเขาจะไม่ทำพลาดอีก หากเขาพลาดอีก เราก็จะอภัย และพร้อมจะยืนเคียงข้างให้เขาก้าวข้ามสิ่งนั้นได้
วันอังคารที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552
หน้าใสไร้สิว
พี่สอนวิธีการดูแลหน้าให้ฉันเริ่มจากการล้างหน้า ต้องเลือกเจลเพราะไม่มันและไม่มีกากสบู่ตกค้าง ในขณะที่โฟมมีีความมันทำให้เกิดสิวได้ง่าย และสบู่ก็มีกากสบู่ทำเกิดสิวได้เช่นกัน หลังจากล้างหน้าต้องกระชับรูขุมขนด้วยโทนเนอร์ จากนั้นพี่สอนฉันลอกหน้า ฉันยังุจำบรรยากาศนั้นได้ที่ฉันรู้สึกแปลกๆตอนที่พี่ใช่ครีมของฝรั่งเศสที่พอกหน้าให้ มันใช้เวลาเพียง 5 นาทีก็ไปล้างออกได้เลย ไม่ต้องทิ้งข้ามคืน ไม่ต้องรอให้ครีมแพ็คตัวเป็นหน้ากากแล้วค่อยลอกออก พี่สอนฉันว่าต้องลอกหน้าอาทิตย์ละครั้ง เพื่อลอกสิ่งสกปรกที่อาจตกค้างอยู่ที่รูขุมขนออกไปให้หมด สิ่งสกปรกเหล่านี้หากตกค้างในรูขุมขนมันจะแปลงรา่่งเป็นสิว! ยี้ !!
พี่บอกว่าให้ระวังอย่าเอามือจับหน้าเพราะมือเรามันจับมาสารพัด เอาเชื้อโรคมาไว้บนผิวหน้่าทำไม เดี๋ยวเป็นสิวนะ อีกอย่งที่พี่ห้ามคือ "ห้ามบีบสิวเสี้ยน" พี่วาดรูปภูเขาไฟ ที่มีลาวาอยู่ข้างใน และอธิบายวา่สิวก็เหมือนภูเขาไฟที่มีลาวา เมื่อเราบีบสิว ลาวา(สิว) ก็จะพุ่งออกไป ทิ้งไว้แต่ปล่อง(ผิวที่มีรูโบ๋) ดูน่าเกลียดมาก รักษาอย่างไรก็ไม่หาย ติดตัวอย่างนั้นไปจนแก่เลย อยากบีบ หมั่นเี้ขี้ยวอย่างไรก็อดทนไว้ ท่องไว้ "เดี๋ยวผิวหน้าเป็นปล่องภูเขาไฟ"
เรื่องอาหารการกินก็ต้องดูแล ไม่กินมัน ไม่กินหวาน มันทำให้เป็นสิวได้ง่าย
ทุกวันนี้ฉันยังจำสิ่งที่พี่สอนฉันได้แม่นยำเพราะว่าต้องทบทวนสิ่งนี่เสมอในเวลาที่ตอบคำถามที่ถามว่าทำอย่างไรหน้าจึงใสเนียนไม่มีสิวเลย ฉันรู้สึกขอบคุณพี่ที่สอนฉันมาอย่างดี ขอบคุณมากค่ะ